คำอธิบายการทดสอบแต่ละรายการ:

1. ปรึกษาแพทย์: ผลการตรวจจะได้รับการอธิบายผ่านทางอีเมลหรือพบแพทย์ตัวต่อตัว
2. การตรวจความสมบูรณ์ของเลือด (CBC): ตรวจวัดเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว ฮีโมโกลบิน และเกล็ดเลือด เพื่อหาภาวะโลหิตจาง การติดเชื้อ และความผิดปกติอื่น ๆ
3. การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด: วัดระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากอดอาหาร 8-12 ชั่วโมง เพื่อวินิจฉัยเบาหวานหรือปัญหาการเผาผลาญ
4. การตรวจวัดระดับน้ำตาลสะสม (HbA1C): วัดระดับน้ำตาลเฉลี่ยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ใช้ในการวินิจฉัยและติดตามเบาหวาน
5. การทดสอบการทำงานของไต: ตรวจ BUN, ครีเอตินีน และ eGFR เพื่อประเมินการทำงานของไต
6. การทดสอบการทำงานของตับ: ตรวจโปรตีนทั้งหมด อัลบูมิน โกลบูลิน บิลิรูบิน AST, ALT, ALP เพื่อตรวจสอบการทำงานและความเสียหายของตับ
7. การตรวจระดับไขมันในเลือด: วัดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ HDL และ LDL เพื่อประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจ
8. การตรวจปัสสาวะ: วิเคราะห์องค์ประกอบในปัสสาวะเพื่อตรวจหาโรคไต เบาหวาน และการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
9. การตรวจระดับเกลือแร่: วัดโซเดียม โพแทสเซียม คลอไรด์ และไบคาร์บอเนต เพื่อรักษาสมดุลของเหลวและการทำงานของระบบประสาท
10. กลุ่มเลือด ABO: กำหนดประเภทเลือด (A, B, AB, O) ใช้ในการถ่ายเลือดและปลูกถ่ายอวัยวะ
11. กลุ่มเลือด Rh: ระบุ Rh-positive หรือ Rh-negative ซึ่งสำคัญในการตั้งครรภ์
12. การตรวจหาภาวะ G-6-PD: วัดเอนไซม์ G-6-PD เพื่อประเมินความเสี่ยงของโลหิตจางจากการทำลายเม็ดเลือดแดง
13. การทดสอบต่อมไทรอยด์: วัด TSH, Free T3 และ Free T4 เพื่อตรวจหาภาวะไทรอยด์ต่ำหรือสูง
14. การตรวจวิตามินดี: วัดระดับวิตามินดีในเลือด เพื่อประเมินสุขภาพกระดูกและภูมิคุ้มกัน
15. การตรวจวิตามิน B12: วัดระดับ B12 ซึ่งสำคัญต่อระบบประสาท การสร้างเม็ดเลือด และ DNA
16. การตรวจสังกะสี: วัดระดับสังกะสีในเลือด ซึ่งจำเป็นต่อภูมิคุ้มกัน การสมานแผล และการสังเคราะห์ DNA
17. ค่าการอักเสบ (hs-CRP): ตรวจวัดระดับการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและโรคอักเสบอื่น ๆ
18. โฮโมซิสเทอีน: วัดระดับกรดอะมิโนที่อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจหากสูงเกินไป
19. ค่ามะเร็ง (ชาย): ตรวจ AFP, CEA, CA19-9, PSA เพื่อประเมินความเสี่ยงของมะเร็งตับ ต่อมลูกหมาก และลำไส้ใหญ่
20. ค่ามะเร็ง (หญิง): ตรวจ CA125 และ CA15-3 ซึ่งใช้ตรวจหาความเสี่ยงมะเร็งรังไข่ เต้านม หรือมะเร็งอื่น ๆ